พอตกับบุหรี่ไฟฟ้า อันไหนอันตรายกว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีความน่าสนใจเป็นพิเศษในวงกว้างของผู้คน โดยเฉพาะกับวัยรุ่นที่ต้องการสะท้อนภาพลักษณ์แห่งความเท่ห์และตามกระแสโฆษณาที่ยิ่งทำให้มันดูดึงดูดมากขึ้น แต่จริงๆ แล้ว อะไรคือความจริงที่คนควรรู้?
1. พอตกับบุหรี่ไฟฟ้า อันไหนอันตรายกว่า
- บุหรี่ไฟฟ้ามีสารอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา เนื่องจากบุหรี่ธรรมดามีสารเคมีมากถึง 7,357 ชนิด แต่ไม่หมายความว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัย 100% และยังมีสารเคมีบางประเภทที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับร่างกาย
2. ควันจากบุหรี่ไฟฟ้า
- ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ประเภทไหน, การสูดควันเข้าสู่ปอดนั้นย่อมมีผลเสียต่อสุขภาพ เพราะควันเป็นสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการ
3. บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งแฟชั่น
- โฆษณาและการส่งเสริมการตลาดเป็นปัจจัยที่เสริมสร้างความนิยม ทั้งนี้ การที่บุหรี่ไฟฟ้ามีกลิ่นหลายๆ รูปแบบ ทำให้เป็นที่นิยมเฉพาะที่วัยรุ่น
4. นิโคตินและการเสพติด
- แม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะมีนิโคตินน้อยกว่า แต่การสูบอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดความเสพติดนิโคติน เช่นเดียวกับบุหรี่ธรรมดา นิโคตินเป็นสารที่สร้างความติดขึ้นได้ ซึ่งยากต่อการเลิก
การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเสมือนกับการเลือกความเสี่ยงที่ต่างจากบุหรี่ธรรมดา แต่ทั้งสองยังคงเป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพ ดังนั้นควรตระหนักและพิจารณาให้รอบคอบก่อนการใช้งาน
สำหรับบุหรี่ธรรมดา คนส่วนใหญ่รู้ถึงความร้ายกาจของมันอยู่แล้ว เพราะมีงานวิจัยออกมาบอกถึงอันตรายของมันอย่างมากมาย จึงทำให้คนรู้ถึงโทษร้ายแรงและเฝ้าระวังบุหรี่ได้อย่างดี สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า มีงานวิจัยจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ชัดว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อผู้สูบมากกว่าบุหรี่ธรรมดาถึง 67% แน่นอนว่า WHO ไม่การันตีว่ามันปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา
และจากที่กล่าวมาข้างต้น สารประกอบที่พบในบุหรี่ไฟฟ้า ก่อให้เกิดอันตรายไม่แพ้บุหรี่ธรรมดา ไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้ามีอนุภาคที่เล็กกว่าบุหรี่ธรรมดา ทำให้สามารถถูกดูดเข้าไปในปอดส่วนลึกได้มากกว่าบุหรี่ธรรมดา อนุภาคเล็กๆ เหล่านี้ จะเข้าไปจับเนื้อเยื่อที่ปอดและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว และยากที่ร่างกายของเราจะขับสารพิษเหล่านี้ออกมาได้
ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ธรรมดาหรือบุหรี่ไฟฟ้า ต่างส่งผลเสียให้กับร่างกายของเราทั้งสิ้น ไม่เพียงแต่มันสร้างความรำคาญให้กับคนรอบข้าง มันยังทำลายสุขภาพของคนรอบข้างและโลกใบนี้ของพวกเราอีกด้วย รู้ใจอยากให้ทุกคนตระหนักถึงผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ถึงแม้ว่าวิวัฒนาการทางการแพทย์สามารถรักษามะเร็งบางชนิดให้หายได้ก็ตาม แต่การเป็นมะเร็งนั้นไม่สนุกเลย เสียทั้งเงิน เสียเวลา และหากร้ายแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
บุหรี่ไฟฟ้า ช่วยเลิกบุหรี่ได้อย่างที่โฆษณาจริงหรือไม่?
ปัจจุบันข้อมูลวิจัยทางการแพทย์ ยังไม่มีงานวิจัยชุดใดที่บอกได้อย่างแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าบุหรี่ไฟฟ้าสามารถทำให้คนเลิกบุหรี่ได้จริง เช่นกันกับในแง่ของความปลอดภัยที่ก็ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน ทั้งนี้มีตัวอย่างงานวิจัยชิ้นหนึ่งในประเทศอังกฤษที่น่าสนใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพของบุหรี่ไฟฟ้า โดยได้มีการทำการทดลองเก็บข้อมูลโดยการนำเอาผู้ป่วยที่ต้องการเลิกบุหรี่จำนวน 890 ราย มาแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งให้กลุ่มแรกนั้นทำการเลิกบุหรี่ด้วยการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนอีกกลุ่มให้ทำการเลิกบุหรี่ด้วยการรับยาเลิกบุหรี่ โดยทั้ง 2 กลุ่มเข้ารับการทดลองต่อเนื่อง 3 เดือน ควบคู่กันไปกับการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับพฤติกรรมเพื่อเลิกบุหรี่ จนกระทั่งครบ 1 ปี ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเลิกบุหรี่ได้ 18% ส่วนในกลุ่มที่ใช้ยาสามารถเลิกบุหรี่ได้ 9.9%
ซึ่งจากตัวเลขนี้อาจทำให้เราเห็นว่า บุหรี่ไฟฟ้านั้นช่วยเลิกบุหรี่ได้ดีกว่า แต่ทว่าการติดตามผลวิจัยนี้ต่อมาพบว่า ใน 18% ของกลุ่มที่เลิกบุหรี่ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า มี 80% กลับไปเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าแทน ส่วนในกลุ่มที่เลิกบุหรี่ด้วยยาพบว่า 90% เลิกบุหรี่ขาดได้เลยและไม่ต้องใช้ยาเลิกบุหรี่อีกด้วย ดังนั้นจากผลวิจัยนี้จึงอาจสรุปได้ว่า บุหรี่ไฟฟ้าอาจช่วยเลิกบุหรี่ได้จริง แต่กลายเป็นว่าเราจะหันไปติดบุหรี่ไฟฟ้าแทน ซึ่งคำถามต่อมาคือ แล้วบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายจริงหรือไม่? เพราะถ้าอันตรายการหันไปติดบุหรี่ไฟฟ้า ก็อันตรายเช่นกัน
ปลอดภัยจริงหรือไม่ สูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วเสี่ยงภัยอะไรหรือเปล่า?
หากเทียบกันตรงๆ แล้ว บุหรี่ไฟฟ้านั้นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดาจริง เพราะบุหรี่ธรรมดานอกจากนิโคตินที่ทำให้ติดแล้ว ยังมีสารอื่นๆ อยู่อีกมากถึง 7,357 ชนิด ซึ่งจากสารทั้งหมดนั้นมีอยู่อย่างน้อย 70 ชนิดที่เป็นสาเหตุสามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้แน่นอน แต่สำหรับในบุหรี่ไฟฟ้าก็ใช่ว่าจะไม่มีอันตรายเลยเพราะก็ประกอบด้วยสารระเหยอื่นๆ เช่นกัน แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลวิจัยออกมาที่แน่ชัดเหมือนกับบุหรี่ธรรมดาว่าสารใดเป็นอันตรายแค่ไหนอย่างไร
แต่ทั้งนี้ “ควันก็คือควัน” การสูบบุหรี่ไฟฟ้าคือการสูดควันเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งไม่ว่าจะมาจากสารใดก็ตาม ควันคือสิ่งแปลกปลอม สิ่งผิดปกติ ดังนั้นเมื่อสูบเข้าไปในร่างกาย ย่อมอนุมานได้ว่าไม่ดีแน่ๆ ยิ่งถ้าสูบเข้าไปในปริมาณมากๆ นานๆ ก็จะยิ่งมีโอกาสเกิดอันตรายได้ หรือบางคนแม้จะสูบน้อย แต่ก็เป็นอันตรายได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับระบบร่างกายของแต่ละคนในการตอบสนองต่อสารนั้นๆ
ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ เหมือนกับคนที่ดื่มเหล้าแก้วเดียวแล้วเมา กับบางคนดื่มเหล้าเป็นสิบๆ แก้วยังไม่เมา นั่นทำให้เห็นว่า สูบมากสูบน้อยก็เป็นอันตรายได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน หรือในกรณีที่หลายคนแย้งว่าในบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีนิโคตินน้อยกว่า ไม่เป็นอันตรายเท่ากับบุหรี่ ประเด็นนี้ก็ไม่ถือว่าผิด แต่ถึงแม้บุหรี่ไฟฟ้าจะมีนิโคตินน้อยกว่า แต่ถ้าสูบบ่อยกว่า รวมถึงเทคนิคการสูบที่หากสูบแบบอัด ก็ทำให้ได้รับปริมาณนิโคตินที่มากเท่ากับสูบบุหรี่ธรรมดาได้เช่นกัน ซึ่งนิโคตินคือสารให้ความสุขที่ทำให้เรา “เสพติด” สูบแล้วโล่ง สูบแล้วหายเครียด ทำให้เมื่อเราขาดหรือไม่สูบ จะเกิดอาการกระวนกระวาย และนำไปสู่การเสพติดที่สุดท้ายก็นำมาซึ่งโอกาสอันตรายได้ในอนาคต เพราะอย่างไรเสียนิโคตินก็เป็นสิ่งแปลกปลอมอยู่ดี
ถ้าไม่ดีจริงอย่างโฆษณา ทำไมคนถึงสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันเยอะขึ้น?
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนหันมานิยมบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น โดยเฉพาะวัยรุ่นก็เพราะ “โฆษณา” ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของบุหรี่ไฟฟ้านั้นดูน่าดึงดูด คือ นอกจากความเท่ห์ ที่เป็นแฟชั่นแล้ว การใช้ข้อมูลด้านเดียวอย่างเช่นเรื่องไม่มีสารก่อมะเร็ง ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือมีน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา และยังไม่ได้รับการวิจัยที่ครบถ้วน มาเป็นตัวนำเสนอ จึงทำให้บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และเมื่อรวมกับการที่ผู้ผลิตสร้างให้บุหรี่ไฟฟ้ามีลูกเล่นที่เยอะกว่าอย่างเรื่องกลิ่นที่มีให้เลือกหลากหลายร้อยกลิ่น จึงยิ่งทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้น และปัจจัยสุดท้ายเลยที่ทำให้ผู้คนติดบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้นก็เพราะ “นิโคติน” ที่อยู่ในบุหรี่ไฟฟ้าเหมือนกันกับบุหรี่ธรรมดา ที่เป็นสารเสพติด จึงทำให้เมื่อสูบไปแล้ว สูบบ่อยเข้า ก็กลายเป็นติดในที่สุด
คุณอาจเคยได้ยินประโยชน์ของการสูบ Pod ว่าปลอดภัยหรือช่วยให้คุณเลิกบุหรี่ได้ แล้วการูบ พอต อันตรายไหม บางคนสูบ Pod เพราะคิดว่ามันจะช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ หากลองวิธีอื่นแล้วและเลิกไม่ได้ โชคไม่ดีที่คุณอาจจบลงด้วยการเสพติดการสูบพอตแทน ดังนั้นประโยชน์ของการสูบพอตเพื่อการเลิกบุหรี่อาจไม่ดีอย่างที่คิด แล้ว พอตคืออะไร ไม่มีประโยชน์ที่จะสูบพอตถ้าคุณยังไม่ได้สูบบุหรี่ หลายคนมักคิดว่าการสูบพอต ไม่ได้เลวร้ายเท่ากับการสูบบุหรี่ แต่ควันที่คุณหายใจเข้าไปยังคงมีนิโคตินและสารเคมีอันตรายอื่น ๆ อยู่ในนั้น การสูบพอตไม่ปลอดภัยและอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ รวมถึงการบาดเจ็บของปอดที่คุกคามถึงชีวิต
อันตรายจาก สูบบุหรี่ไฟฟ้า พอตปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่จริงหรือ
การสูบพอต และการสูบบุหรี่เกี่ยวข้องกับการสูดดมนิโคตินและสารอื่น ๆ เข้าไปในปอดของคุณ บุหรี่ไฟฟ้า ทำให้ของเหลวร้อนขึ้นเพื่อสร้างละอองลอย บุหรี่เผาใบยาสูบซึ่งทำให้เกิดควัน การสูบพอตมักถูกมองว่าปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่ แต่การสูบพอตทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเช่นกัน ทั้งการสูบพอตและการสูบบุหรี่เป็นสิ่งเสพติดและนำสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายเข้าสู่ร่างกายของคุณ ระดับของสารเคมีเหล่านี้จำนวนมากจะสูงขึ้นเมื่อคุณเผาใบยาสูบ การสูบพอตไม่ได้เกิดขึ้นนานพอที่จะรู้ว่ามันอาจก่อให้เกิดความเสียหายระยะยาวประเภทใด
พอตกับบุหรี่ไฟฟ้า อันไหนอันตรายกว่า มีส่วนประกอบของอะไรบ้าง
น้ำยาพอต หรือเรียกว่า E-liquid คือสิ่งที่อุปกรณ์หรือพอตใช้เพื่อสร้างไอ ให้คุณหายใจเข้าไป น้ำยาพอตไม่ใช่แค่น้ำ ที่สร้างกลิ่นหรือสร้างควัน พวกมันมักจะประกอบไปด้วย
1. นิโคติน สารเสพติดและเป็นอันตรายในบุหรี่และผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่น ๆ
2. โพรพิลีนไกลคอลและกลีเซอรีน ใช้สร้างไอระเหย และเครื่องปรุงบางครั้งมีส่วนผสมอื่น ๆ รวมถึง สารเคมีที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็ง (สารก่อมะเร็ง) เช่น อะซีตัลดีไฮด์และฟอร์มัลดีไฮด์, สารเคมีที่ทราบว่าทำให้เกิดโรคปอด เช่น อะโครลีน ไดอะเซทิล และไดเอทิลีนไกลคอล, THC (tetrahydrocannabinol) สารเคมีในกัญชาที่ทำให้คุณ “สูง” ,วิตามินอี อะซิเตทเชื่อมโยงกับการบาดเจ็บของปอดที่เกิดจากการสูบพอต และ โลหะหนัก เช่น นิเกิล ดีบุก ตะกั่ว และแคดเมียม อนุภาคขนาดเล็ก (ละเอียดมาก) ที่สามารถเข้าไปในปอดได้ลึก
พอตกับบุหรี่ไฟฟ้า อันไหนอันตรายกว่า
อันตรายของการสูบ พอตไฟฟ้า ได้แก่ ปอดและอวัยวะอื่น ๆ เสียหาย ปัญหาการหายใจ การเสพติด และอื่น ๆ ผู้คนมักจะคิดว่าการสูบพอตนั้น “ปลอดภัย” กว่าการสูบบุหรี่ แต่ก็ไม่ปลอดภัย
ปัญหาที่พบจากการสูบพอต
1. โรคหอบหืด การสูบพอต ทำให้คุณมีโอกาสเป็นโรคหอบหืดและภาวะปอดอื่น ๆ ได้มากขึ้น อาจทำให้โรคหอบหืดที่มีอยู่ของคุณแย่ลงได้
2. ปอดเป็นแผลเป็น ไดแอซีทิล ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ในเครื่องปรุงบางชนิดสามารถทำให้เกิดโรคหลอดลมฝอยอักเสบ “ปอดข้าวโพดคั่ว” ทำให้เกิดแผลเป็นถาวรในปอดของคุณ
3. ความเสียหายของอวัยวะ นอกจากปอดแล้ว นิโคตินและสารอื่น ๆ ในของเหลวอิเล็กทรอนิกส์ยังทำร้ายหัวใจและสมองได้ เราทราบดีว่านิโคตินสามารถทำร้ายพัฒนาการของสมอง เพิ่มความดันโลหิต และทำให้หลอดเลือดแดงตีบตัน
4. EVALI เป็นภาวะปอดร้ายแรงที่เกิดจากการสูบพอต หรือสูบไอ ทำให้ปอดเสียหายเป็นวงกว้างและทำให้คุณมีอาการไอ หายใจถี่ และเจ็บหน้าอก EVALI อาจถึงแก่ชีวิตได้
EVALI ย่อมาจาก บุหรี่ไฟฟ้า หรือการสูบไอ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บของปอด เป็นภาวะปอดร้ายแรงที่เกิดจากการสูบไอ วิตามินอี อะซิเตทซึ่งพบได้ในของเหลวอิเล็กทรอนิกส์บางชนิดเป็นสาเหตุที่เป็นไปได้ การระบาดของ EVALI ในช่วงปลายปี 2019 และต้นปี 2020 ทำให้ผู้คนหลายพันคนต้องเข้าโรงพยาบาล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 68 คน ตั้งแต่นั้นมา กรณีของ EVALI ก็ลดลง แต่ผู้ที่สูบไอระเหยก็ยังสามารถรับ EVALI ได้ ในบรรดาผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วย EVALI ขั้นรุนแรง ส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 35 ปี และใช้ไอระเหยที่มี THC จากแหล่งข้อมูลที่ไม่เป็นทางการ (ออนไลน์ ครอบครัว หรือเพื่อน) อย่างไรก็ตาม EVALI สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ใช้ไอระเหยที่มีนิโคตินหรือ THC
อาการของ EVALI ได้แก่ ไอ ,หายใจถี่ ,อาการเจ็บหน้าอก ,เป็นไข้ ,อาเจียน ,ท้องเสีย,อาการปวดท้อง และหัวใจเต้นเร็วร่วมด้วย
5. ติดยาเสพติด นิโคตินเป็นสิ่งเสพติดอย่างมาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมอง คุณจึงต้องการนิโคตินมากขึ้นเรื่อย ๆ คุณอาจไม่สามารถหยุดสูบพอตได้หากต้องการ หรือถ้ามันเริ่มก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ แม้แต่ของเหลวอิเล็กทรอนิกส์ที่ระบุว่าปราศจากนิโคตินก็ยังมีนิโคตินในปริมาณเล็กน้อย
6. การสูบบุหรี่ หลายคนเริ่มสูบพอตและจบลงด้วยการสูบบุหรี่ซึ่งมีสารเคมีอันตรายในปริมาณที่สูงกว่า
7. บุหรี่มือสอง การสูบพอตไม่ได้ทำให้เกิดควัน แต่ผู้คนที่อยู่รอบตัวคุณได้รับนิโคตินและสารเคมีอื่น ๆ เมื่อคุณสูบพอต
8. การระเบิด มีเหตุการณ์ที่แบตเตอรี่ในอุปกรณ์สูบพอตหรือไอระเบิดและทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกไฟไหม้
9. มะเร็ง ส่วนผสมบางอย่างในน้ำยาสูบพอตเป็นที่รู้กันว่าก่อให้เกิดมะเร็ง
✅ สั่งสินค้าผ่าน LINE Official Account @techstore (มี @ ด้านหน้าด้วยนะคะ) รวดเร็วภายใน 3 นาที 🚚จัดส่งภายใน 3 ชั่วโมง โดยคุณสามารถเลือกชมรายการสินค้าได้ที่หน้า สินค้า Kardinal Stick ของเรา 🙇🏻♀️ มีทีมงานคอยช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ 💖